ข่าวสาร
/ บทความ
บทความหรือสาระน่ารู้ต่าง
วิธีไหว้พระจันทร์ ทำอย่างไร ใช้อะไรบ้าง ควรไหว้กี่โมง
1. ทำไมต้องมีพิธีไหว้พระจันทร์ 
 
          ต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ยังไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัด แต่มีบางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า น่าจะเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ 1911 ช่วงที่มองโกลยึดครองจีน โดยพวกกบฎได้ทำขนมเค้กขึ้นมาแล้วซ่อนข้อความลับเอาไว้ เพื่อส่งสารให้ประชาชนทั้งประเทศมาร่วมชุมนุมกัน ในขณะนั้นทหารมองโกลก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะคิดว่าเป็นขนมที่ชาวจีนทำตามประเพณี ดังนั้นคืนที่มีการชุมนุมทหารมองโกลก็ถูกำจัดอย่างราบคาบ และหลังจากมีการจัดตั้งราชวงศ์หมิง วันไหว้พระจันทร์ ก็กลายเป็นพิธีสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้  
 
          นอกจากนี้ชาวจีนยังยกให้ พระจันทร์ เป็นสื่อกลางของการคิดถึงซึ่งกันและกัน หากมีคนในครอบครัวต้องจากบ้านเกิดไปไกล เมื่อคิดถึงครอบครัวก็ให้แหงนหน้าขึ้นฟ้าและมองพระจันทร์เพื่อส่งความรู้สึกคิดถึงไปให้ครอบครัว
 
2. ฤกษ์ไหว้พระจันทร์ ควรทำกี่โมง 
 
          ก่อนหน้านี้ผู้ชายชาวจีนจะไม่นิยมทำพิธี เพราะผู้ชายถือเป็นธาตุหยาง และเชื่อว่าพระจันทร์เป็นหยิน ซึ่งเป็นธาตุของผู้หญิง จึงให้ผู้หญิงเป็นคนไหว้เท่านั้น แต่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ทำพิธีไหว้พระจันทร์ได้หมด แต่มักจะให้ผู้หญิงไหว้ก่อนเป็นคนแรก ส่วนการไหว้พระจันทร์แบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกันคือ ไหว้เจ้าช่วงเช้าและไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งการไหว้ทั้ง 2 ชและไหว้เจ้าแม่ในตอนค่ำ เมื่อเห็นพระจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้า 
 
          ทั้งนี้หากไม่สะดวกไหว้ทั้ง 3 เวลา สามารถเลือกไหว้เฉพาะช่วงหัวค่ำเพียงอย่างเดียวก็ได้ โดยจัดเตรียมซุ้มต้นอ้อยและโต๊ะวางของไหว้ให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จากนั้นค่อยทำพิธีเมื่อพระจันทร์เริ่มปรากฏ และเก็บโต๊ะก่อนที่พระจันทร์จะเลยศีรษะไป หรือเมื่อเทียนดอกใหญ่ดับลง 
 
3. ของไหว้พระจันทร์ มีอะไรบ้าง
 
          ของไหว้พระจันทร์ก็เหมือนกับของไหว้เจ้าทั่วไป ได้แก่ ธูป เทียน กระถางธูป กระดาษเงิน กระดาษทอง น้ำชา น้ำสะอาด ดอกไม้สด อาหารเจแห้ง เช่น เห็ดหอม วุ้นเส้น สาหร่ายทะเล ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ และผลไม้มงคลทรงกลม เช่น ทับทิม (หมายถึงลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง) แอปเปิล (หมายถึงความสงบสุข) องุ่น (หมายถึงความเพิ่มพูน) ส้ม (หมายถึงความเป็นมงคล) สาลี่ (หมายถึงการขอพรให้มีเรื่องดีเข้ามาในชีวิต) แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีของไหว้พระจันทร์โดยเฉพาะอีกต่างหาก โดยจะประกอบด้วย
 
          1. ขนมหวาน ควรเลือกที่เป็นทรงกลมคล้ายพระจันทร์ เช่น
 
          ขนมไหว้พระจันทร์ : ขนมหวานทรงกลมมีไส้หวานหรือไส้ธัญพืชข้างใน เป็นหนึ่งในของไหว้พระจันทร์ที่ขาดไม่ได้
 
          ขนมโก๋ : ขนมหวานทำจากแป้งสีขาว ลวดลายสวยงาม สื่อถึงการขอพรให้ผิวพรรณขาวสวย
 
          ขนมเปี๊ยะ : ขนมหวานที่มีอักษรมงคลสีแดงอยู่ตรงกลาง
 
          ขนมอี๋หรือบัวลอยจีน : ขนมหวานลูกกลม ๆ สีแดง ๆ ในน้ำเชื่อม สื่อถึงชีวิตที่หวานสดชื่น
 
          2. ของใช้สำหรับผู้หญิง เช่น ชุดเครื่องแป้ง เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย ตลับแป้ง น้ำหอม เพื่อบูชาพระจันทร์ที่เปรียบเป็นเพศหญิง รวมถึงเป็นการบูชาเจ้าแม่จันทราและเจ้าแม่กวนอิมด้วย
 
          3. โคมไฟ สื่อถึงชีวิตที่สว่างไสว
 
          4. อ้อย 1 คู่ เพื่อทำเป็นซุ้ม
 
          ซึ่งของไหว้ เช่น ผลไม้ ขนมหวาน และอาหารเจ จะจัดเตรียมมาอย่างละ 3 ชนิด 4 ชนิด หรือ 5 ชนิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความศรัทธาและความเหมาะสม
 
4. วิธีไหว้พระจันทร์ ทำอย่างไร
 
          สถานที่ทำพิธีควรทำกลางแจ้ง เป็นบริเวณที่มองเห็นพระจันทร์ เช่น หน้าบ้านหรือดาดฟ้า สำหรับคนที่อาศัยอยู่คอนโดก็ไหว้บนระเบียงแทนได้ ส่วนขั้นตอนการทำพิธีไหว้พระจันทร์เริ่มจาก
 
          1. เตรียมสถานที่ด้วยการนำต้นอ้อยมาทำซุ้ม ผูกให้ยอดโค้งเข้าหากัน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วติดโคมไฟสีแดงประดับให้เสร็จเรียบร้อยในช่วงพระอาทิตย์ตกดินหรือก่อนพระจันทร์จะลอยสูงเกินขอบฟ้า ควรเลือกเป็นบริเวณกลางแจ้ง เช่น ดาดฟ้าหรือลานหน้าบ้าน แต่ถ้าหากมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ก็มองหาบริเวณไหนก็ได้ที่เหมาะสม
 
          2. จัดโต๊ะวางของไหว้ให้ครบถ้วนและสวยงาม
 
          3. รอพระจันทร์ขึ้นหรือพระจันทร์เต็มดวง จึงเริ่มพิธีไหว้
 
          4. จุดธูป 3 หรือ 5 ดอก ตามจำนวนชนิดของผลไม้ รวมถึงเทียนและโคมไฟ
 
          5. อธิษฐานขอพรเรื่องความรัก ความมีเสน่ห์ ความเมตตา หน้าที่การงาน และโชคลาภ
 
          6. เก็บโต๊ะหลังจากเทียนดอกใหญ่ดับลงหรือก่อนพระจันทร์จะเลยศีรษะไป
 
          7. นำของไหว้มากิน โดยแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว และมีขนาดเท่ากันเพื่อความเป็นสิริมงคล แสดงถึงความกลมเกลียว ปรองดอง และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
 
          ถึงแม้จะเป็นเทศกาลของคนจีน แต่ปัจจุบันคนไทยจำนวนไม่น้อยก็เริ่มหันมาไหว้พระจันทร์ด้วย ดังนั้นถ้าหากใครอยากไหว้ให้ถูกต้อง สมหวัง และสมความปราถนาละก็ อย่าลืมนำ 5 เคล็ดลับดังกล่าว ไปปรับใช้ให้เหมาะสมนะคะ  
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เอส แอนด์ พี และหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ